การตรวจหารอยรั่ว โดยใช้เครื่องมือในการตรวจหา

โดยส่วนใหญ่โรงงานอุตสาหกรรมจะมี ระบบอากาศ ระบบแก๊ส และระบบสุญญากาศ เป็นต้นกำเนิดที่สำคัญของพลังงานที่เป็นตัวแปลสำคัญ เนื่องจากว่ามีความสะดวกมากกว่าทรัพยากรอื่นๆ ดังนั้นทุกโรงงานจึงจะมีระบบคอมเพรสเซอร์มากมาย ที่จะคอยทำหน้าที่ช่วยสนับสนุนในส่วนงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร เครื่องมือ หุ่นยนต์ เลเซอร์ ระบบการจัดการผลิตภัณฑ์ และอื่นๆอีกมากมาย

แต่ระบบอากาศ อัดอากาศ ระบบแก๊ส และระบบสุญญากาศ เมื่อเวลาผ่านไปนานวัน ระบบเหล่านี้ก็จะสึกหรอ หรือการบำรุงรักษาที่ไม่ดีเท่าที่ควร ก็จะส่งผลให้เกิดการเสียเปล่าของอากาศหรือแก๊สนั้นๆได้ หรือก็ถือการเกิดการรั่วขึ้นนั่นเอง การรั่วอาจเกิดขึ้นได้หลายจุด การรั่วที่เกิดขึ้นนั้นอาจซ่อนอยู่หลังเครื่องจักร, ที่จุดเชื่อมต่อ, ในท่อที่ยึดไว้ หรือช่องทางการเดินท่อที่เสื่อมสภาพ รอยรั่วทั้งหลายเหล่านี้ถ้าปล่อยไว้ อาจจะส่งผลได้ตั้งแต่ระดับเล็กน้อยลุกลามไปจนถึงเครื่องจักรทั้งระบบเลยก็ได้

เมื่อเกิดรอยรั่ว สิ่งที่ตามมาก็ถือ ค่าใช้จ่าย

จากปัญหารอยรั่วที่เกิดขึ้นกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลว่า รอยรั่วของการอัดอากาศขนาด 1/8 นิ้ว หรือ 3 มม. นั้น เพียงจุดเดียวอาจมีความ เสียหายได้สูงสุดถึง 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี การตรวจหารอยรั่ว อย่างรวดเร็วนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดต้นทุนในด้านพลังงานที่เกิดขึ้นเหล่านี้ และอาจรวมไปถึงการบำรุงรักษาเครื่องจักร ได้อีกด้วย

ในหลายครั้งที่เมื่อตรวจพบแรงดันอากาศที่ไม่ได้มาตรฐานอันเนื่องจากเกิดรอยรั่ว ผู้ประกอบการมักจะต้องซื้อเครื่องคอมเพรสเซอร์ขนาดใหญ่ที่เกินความจำเป็น เป็นตัวการที่ทำให้ต้องเสียต้นทุนและยังใช้พลังงานมากขึ้น และถ้าหากกรณีที่เลวร้ายที่สุดเมื่อเกิดการรั่วไหลที่มากขึ้น ทำให้แรงดันในระบบต่ำจะทำให้การผลิตล่าช้าลงไปด้วย ปัญหาด้านคุณภาพของสินค้า อายุการใช้งานเครื่องจักรที่ลดลง และการที่ต้องคอยดูแลรักษาเครื่องคอมเพรสเซอร์บ่อยขึ้น

กรณีตัวอย่าง ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงของทีมฝ่ายผลิตแห่งหนึ่งได้กล่าวว่า แรงดันที่ต่ำไม่ได้มาตรฐานในตัวกระตุ้นแรงดันตัวหนึ่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด เขาได้กล่าวว่า ” ชุดตัวกระตุ้นที่ผิด ไม่ว่าจะเป็นแรงบิดน้อยเกินไปหรือแรงบิดมากเกินไป อาจนำไปสู่การเรียกคืนผลิตภัณฑ์ได้ ” และเข้าได้กล่าวต่ออีกว่า ” มันเป็นเงินที่สูญเสียไปจากการสูญเสียกำไร ในสถานการณ์ที่เลวร้าย ที่สุดเราก็อาจสูญเสียลูกค้าเนื่องจากเราไม่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ “

จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ระบบอุตสาหกรรมต่างตั้งเป้าไปที่ระบบอัดอากาศในฐานะแหล่งที่ช่วยประหยัดต้นทุนได้ การรั่วอาจนำไปสู่การเสียเปล่าของกำไร ดังนั้นการแก้ไขรอยรั่วดังกล่าวจะช่วย ประหยัดเงินให้กับผู้ประกอบการและช่วยบริการสาธารณะ เว้นจากการสร้างการผลิตเพิ่มเติมเข้าไปในระบบได้

แต่การค้นหาและการแก้ไขรวยรั่วไม่ใช่เรื่องง่าย

การค้นหารอยรั่วและแก้ไขรอยรั่วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การระบุปริมาณการเสียเปล่าที่เกิดขึ้นพร้อมกับการกำหนดต้นทุน จำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน หรือที่ปรึกษาที่ใช้เครื่องมือวิเคราะห์พลังงาน แล้วยังต้องมีผู้จดบันทึกระบบอากาศอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำการคำนวณการประหยัดค่าใช้จ่ายประจำปีในการขจัดรอยรั่วอย่างเป็นระบบ

วิธีในการค้นหารรอยรั่วมีด้วยกันหลายวิธี เช่น การตรวจหารอยรั่วโดยการใช้ฉีดน้ำสบู่โดยจะพบปัญหาเรื่องของความเลอะเทอะ ทำให้บริเวณใกล้เคียงเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้ และการตรวจหารอยรั่วโดยใช้การฟังเสียงก็ยาก เมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เตรียมไปด้วยเสียงต่างๆ เครื่องมือหารอยรั่วของคอมเพรสเซอร์ที่ใช้กันในปัจจุบันคือเครื่องตรวจหาเสียงอัลตราโซนิค ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพกพาที่สามารถรับรู้เสียงความถี่สูงที่เกี่ยวข้องกับการรั่วของอากาศ

อัลตร้าซาวด์คืออะไรและเกิดขึ้นได้อย่างไร

อัลตร้าซาวด์ คือ คลื่นเสียงที่มีความถี่สูงกว่าย่านความถี่ที่หูมนุษย์ได้ยิน นั้นก็ถือความถี่ที่สูงกว่า 20,000 Hz และสิ่งที่ทำให้เกิดอัลตร้าซาวด์ได้นั้นอย่างแรกคือ การรั่วของจุดที่มีความดันและสุญญากาศ ในขณะที่ก๊าซพุ่งออกจากรอยแตกหรือรูรั่วจากด้านที่มีความดันสูงไปยังด้านที่มีความดันต่ำ โมเลกุลของก๊าซจะเกิดการแตกกระเจิง (Turbulence) อย่างที่สองคือ จากการเสียดสี (Friction), การกระทบกระแทก (Impact) ตัวอย่างเช่น เมื่อแบริ่งหรือเกียร์มีการหมุน เกิดการเสียดสีหรือการกระทบ จะส่งผลทำให้เกิดสัญญาณอัลตร้าซาวด์กระจายออกมา